
MRET Noise Field Technology

ผลกระทบต่อสุขภาพที่มีสาเหตุจาก รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ ดร.อิเกอร์ สเมียร์นอฟ (Dr.Igor Smirnof) นักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์ ชาวรัสเซีย ได้ผสมผสานเทคโนโลยี MRET (Molecular Resonance Effect Technology) กับเทคโนโลยี Noise Field ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องกำลังพลของกองทัพ จากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นที่มีสาเหตุจาก รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ EMR (Electromagnetic Radiation) ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีทั้งสองเกิดเป็นเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า MRET Noise Field ขึ้น โดยการสร้างเครื่องมือที่ทำให้เกิด คลื่นความถี่ต่ำตามธรรมชาติ ไปเกาะซ้อนควบคู่กันกับ คลื่นความถี่สูงของ EMR ก่อให้เกิดรูปแบบของ คลื่นชุดใหม่ที่กลายเป็นมิตรต่อเซลล์ร่างกาย และอยู่ในสภาวะที่เซลล์ร่างกายยอมรับได้ เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น
เทคโนโลยี MRET Noise Field ได้รับการพัฒนาเป็นอุปกรณ์ป้องกันผลกระทบจากรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สิทธิบัตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถใช้ได้สำหรับบุคคลทั่วไป มีคุณสมบัติในการลดค่า SAR (Specific Absorption Rate) หรือลดอัตราการดูดซับรังสีจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อาทิ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ บลูทูธ กล่องสัญญาณ WiFi เครื่องเล่น VCD/DVD โทรทัศน์ และอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ รวมทั้งเสาส่งสัญญาณ ฯลฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยอุปกรณ์นี้จะไม่รบกวนการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้านั้นๆ แต่อย่างใด
โดยได้รับการทดสอบประสิทธิผลและรับรองจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง เพื่อการดูแลปกป้องเซลล์ และลดผลกระทบต่อสุขภาพ อาการหรือความผิดปกติต่างๆ ของร่างกายจากรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งเป็นอันตรายรอบๆ ตัวที่มองไม่เห็น
MRET Noise Field 1,2 ปกป้องเซลล์จากการทำร้ายของ EMR ได้อย่างไร?

รังสีไมโครเวฟ - คลื่นความถี่สูงในช่วงระหว่าง 800 เมกะเฮิรตซ์
สัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นโดย MRET Noise Field nylon-polymer – เป็นคลื่นความถี่ต่ำในช่วงระหว่าง 5 เฮิรตซ์ - 25 เฮิร์ตซ์
ส่งผลให้รูปแบบของคลื่นความถี่ สามารถสั่นสะเทือนกับโครงสร้างของเซลล์ แต่ในขณะเดียวกัน มันจะไม่ไปกระตุ้น" กลไกการตอบสนองต่อความเครียด" ของเยื่อหุ้มเซลล์
รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMR) ที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีโครงสร้างที่แตกต่างจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่พบในธรรมชาติ ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำมากที่เซลล์ในร่างกายของเราใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าตามธรรมชาติจะเป็นความถี่แบบสุ่ม (หรือ "noisy" Noise Field) ทั้งความถี่ ความกว้างของคลื่น และรูปแบบของคลื่น ในขณะที่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMR) ที่ถูกสร้างขึ้นจะมีรูปแบบที่มีความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
โพลิเมอร์ไนล่อนของ MRET Noise Field จะสร้างความถี่ต่ำ 'noise field' กับ EMR ที่จะให้ประสิทธิผลในการลดผลร้ายของ EMR ไม่ให้เป็นอันตรายต่อเซลล์ของเรา
เอกสารอ้างอิง
-
Smirnov, I V. The Passive Generation of Low Frequency Noise Field by MRET-Shield Polymer Compound and Following Amplitude Modulation of RF Carrier Signals. Int J Biophysics. 2011;1(1):p.1-10.
-
United States Patent US 8,445,879 B2 May 21, 2013 COMPOSITIONS FOR PROTECTION AGAINST ELECTROMAGNETIC RADIATION
สาระสำคัญของงานวิจัยอิสระที่
ดำเนินการในห้องทดลองระดับนานาชาติ

"ลดปริมาณของการดูดซับพลังงานความถี่คลื่นวิทยุในร่างกายของมนุษย์ลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ด้วยโพลิเมอร์ของ MRET ที่ถูกนำไปพัฒนาให้สามารถใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือ"
การทดสอบนี้ได้ดำเนินการที่ห้องทดลองของ RF Exposure Lab ใน เอสคอนดิโด รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นห้องทดลองที่คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการการสื่อสาร (The Federal Communications Commission: FCC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในเรื่องการควบคุมสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุกับการสื่อสารของเซลล์ ได้ให้การรับรอง
"ปกป้องเซลล์สมอง"
การศึกษาเซลล์เกลีย (Glial Cell) : เซลล์แอสโตรไซต์ (Astrocytes เป็นเซลล์เกลียชนิดหนึ่งในเซลล์สมอง) ของมนุษย์
จำนวนของเซลล์สมองจะลดลงกรณีที่โทรศัพท์มือถือที่ไม่มีเครื่องป้องกัน ในขณะที่เซลล์สมองจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นหากโทรศัพท์นั้นมีโพลิเมอร์ไนล่อนของ MRET เป็นเครื่องป้องกัน
โพลีเมอร์ไนลอน MRET สามารถปกป้องกันเซลล์สมอง (เซลล์เกลีย) และอาจจะลดภาวะการเกิดเนื้องอกในสมองจากรังสีโทรศัพท์มือถือ

“ปกป้องเซลล์เม็ดเลือดแดง”
การวิเคราะห์เซลล์เม็ดเลือดแดงขณะที่ยังมีชีวิต

กลุ่มควบคุม
ใช้โทรศัพท์ที่ปราศจากเครื่องป้องกัน
ใช้โทรศัพท์ที่มี โพลิเมอร์เอ็มเร็ทป้องกัน
การเปรียบเทียบภาพกลุ่มควบคุม ที่แสดงให้เห็นว่า การติดตั้งโพลีเมอร์ของ MRET บนโทรศัพท์มือถือ อาจปกป้องมนุษย์จากผลกระทบที่เกิดจากอันตรายของ EMR